โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ นายใหญ่แห่งทัพเบลเยียม ยอมรับว่าปัญหาของพวกเขาอยู่ทีทัศนคติ เนื่องจากลูกทีมเล่นแบบกลัวความพ่ายแพ้ แต่ยืนยันว่าบทสัมภาษณ์ก่อนเกมของ เควิน เดอ บรอยน์ ไม่ส่งผลกระทบใดๆ
คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มาร์ติเนซ คุม “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” แพ้พลิกล็อคต่อ โมร็อกโก 2-0 และหล่นไปเป็นอันดับ 3 ของกลุ่มในศึกฟุตบอลโลก
หลังจบเกมที่สนาม อัล ธูมาม่า สเตเดี้ยม กุนซือชาวสเปน ให้สัมภาษณ์กับ BBC กล่าวถึงฟอร์มอันน่าผิดหวังของลูกทีม
“ผมคิดว่าปัญหาของเราคือเรื่องทัศนคติ ไม่ใช่เรื่องการขาดคุณภาพเราเล่นกับบอลได้ดีขึ้นเยอะเมื่อเทียบกับเกมเจอ แคนาดา และมีหลายจังหวะที่เราเข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่เป็นผลดีกับทีม แต่จากนั้นเราก็จ่ายบอลพลาดในจังหวะถัดไป เราขาดการประสานงานในพื้นที่สุดท้ายเราไม่สามารถส่งบอลไปถึงผู้เล่นที่มีพื้นที่ว่างได้ และผมคิดว่านั่นเป็นเพราะเราเล่นด้วยความกลัวการพ่ายแพ้”
“นั่นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก เพราะตลอด 6 ปีหลังเราเป็นทีมที่หาโอกาสทำประตูได้ตลอด เรายิงประตูติดต่อกันมาเกือบ 50 นัด แต่เกมนี้เราทำแบบนั้นไม่ได้ และนั่นทำให้เราเสียหายเหล่าผู้เล่นพยายามอย่างหนักเพื่อช่วยกันเล่นเมื่อไม่มีบอล และเมื่อเราได้บอล ผมกลับไม่เห็นความสุขจากเหล่าผู้เล่น และนั่นเป็นสิ่งที่เราต้องแก้ไข เราต้องเล่นอย่างเป็นตัวของตัวเอง”
เกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เบลเยียม เตรียมชี้ชะตากับ โครเอเชีย รองแชมป์เก่าผู้นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มห่างจากพวกเขา 1 คะแนน
“ตอนนี้เราอาจอยู่ในสถานการณ์ซึ่งเราไม่มีอะไรจะเสียอีกต่อไปแล้ว, เราต้องชนะ โครเอเชีย ให้ได้หากทำได้นั่นจะเป็นการเริ่มต้นอย่างแท้จริงของเราในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เพราะเราเป็นทีมที่พรสวรรค์อยู่แล้ว และแนวรุกของเราก็มีคุณภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดแข็งของเรามาตลอด”
ก่อนลงเตะเกมนี้ เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์คนสำคัญ ยอมรับว่าพวกเขาไม่มีโอกาสคว้าแชมป์โลกที่ กาตาร์ เนื่องจากอายุของผู้เล่นในทีมที่มากเกินไป ซึ่ง มาร์ติเนซ ก็ถูกถามถึงบทสัมภาษณ์ดังกล่าว
“ผมเองก็เพิ่งได้ยินบทสัมภาษณ์เป็นครั้งแรก ดังนั้นผมคิดว่าคงไม่มีใครรับรู้ถึงคำพูดเหล่านั้นมาก่อนผู้เล่นมีสิทธิเสนอมุมมองของเขาได้เมื่อมีคนตั้งคำถาม แต่ผมคิดว่าเราทุกคนมีประสบการณ์มากพอ เรารู้จักกันและกันมาเป็นเวลา 6 ปีแล้ว และผมไม่คิดว่าบทสัมภาษณ์นั้นมีส่วนช่วยให้เราชนะ หรือทำให้เราเสียสมาธิจนแพ้แต่อย่างใดผมได้เห็นภาษากายของลูกทีมในเกมนี้ พวกเขามีสมาธิและดูสดชื่นมาก พวกเขาทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือกันและกัน”
“เรายังไม่ได้เห็น เบลเยียม ในฟอร์มที่ดีที่สุด รวมถึงในเกมนี้ด้วย ผมคิดว่ามันยุติธรรมแล้วที่จะพูดแบบนั้นเราไม่เคยขาดความมุ่งมั่นหรือความกระหายที่จะใช้ประสบการณ์เพื่อคว้าชัยชนะ แต่เราไม่เป็นตัวของตัวเองเมื่อได้ครองบอลทั้งทีมเล่นแบบแบกความรับผิดชอบมากเกินไป เราต้องหาอิสระในการเล่นของเราให้เจอ และแสดงมันออกมาอีกครั้ง”
เป็นอีกนัดที่ เอแด็ง อาซาร์ ถูกเปลี่ยนออกภายหลังเล่นได้เพียงชั่วโมงกว่า และ มาร์ติเนซ ก็กล่าวเพิ่มเติมถึงกัปตันทีมของเขาเราเรียนรู้จากเรื่องในอดีต และบทบาทของ เอแด็ง คือการลงเล่น 60 นาที”วันนี้เขาเล่นได้แข็งแกร่งมาก อาจจะเป็นฟอร์มที่ดีที่สุดของเขาที่ผมเคยเห็น นับตั้งแต่เกมกับ โปรตุเกส ในฟุตบอลยูโรปีที่แล้ว”