บิ๊ก กกท. เผยเร่งต่อรอง ฟีฟ่า ลดราคาค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 เดดไลน์ก่อนวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ หากไม่ยอมลดจาก 1,600 ล้าน คนไทยอาจที่จะอดดูฟุตบอลโลก
หลังจากที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย นั้นได้รับเงินสนับสนุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช) เป็นจำนวนเงิน 600 ล้านบาท
ล่าสุดวันที่ 14 พฤศจิกายน ได้มีการเซ็นสัญญาลงนามบันทึกข้อตกลงอย่างเป็นทางการ (MOU) ณ ห้องประชุมสายลม 5021 โดยมีนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช ร่วมกับ ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี เป็นตัวแทนจากทั้งสองฝ่าย
ถึงยังไงก็ตาม แม้ตอนนี้จะได้เงินสนับสนุนจากทาง กสทช.จำนวน 600ล้านบาท แต่ทว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย ยังต้องหาเงินเพิ่มอีกจำนวน 1,000ล้านบาทจากผู้สนับสนุนภาคเอกชนเพื่อนำไปซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 จากฟีฟ่า โดยในก่อนหน้านี้มีข่าวว่า 3องค์กรใหญ่อย่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ,บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ และ บริษัท ปตท. ยืนยันจะให้เงินสนับสนุนรวมกันเป็นจำนวนเงินราวๆ 400-500ล้านบาทแต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการซื้อลิขสิทธิ์ในครั้งนี้
ล่าสุด บิ๊กก้อง ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าว่า “ขณะนี้เรากำลังเร่งดำเนินการให้จบโดยเร็วที่สุด เงื่อนไขต่างๆ ที่เราส่งไปให้ฟีฟ่านั้นครบถ้วนแล้ว เราอยากจะให้ฟีฟ่าพิจารณาเรื่องราคาที่เหมาะสมอีกครั้ง รวมไปถึงการแบ่งแพ็กเกจย่อยได้หรือ ตรงนี้เราต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง”
“เรื่องเงินที่ยังขาดอีกเท่าไหร่ เราคงยังตอบไม่ได้ เพราะทางฟีฟ่ายังไม่ได้ตอบมาเรื่องจำนวนที่ชัดเจน เราพยายามต่อรองให้เขาลดราคาจาก 1,600ล้าน ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากเกินไปเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เดดไลน์ของเราคือก่อนวันที่ 20 พฤศจิกายน ถ้าคุยไม่ลงตัวก่อนวันที่ 20 และฟีฟ่าเขาไม่ยอมลดราคาจริงๆ คงต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ถ้ามันเป็นราคาที่สูงเกินไป เราคงรับไม่ได้ ครั้งนี้ก็อาจจะไม่มีการถ่ายทอดสดเกินขึ้น แต่เรายังเชื่อว่าทางฟีฟ่าคงจะมีทางออกหรือข้อเสนออื่นๆ ให้เราได้พิจารณา”
“หลังจากฟุตบอลโลกในครั้งนี้ คงต้องมาหารือกับถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเดิมทีแล้วภารกิจเรื่องการซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก เป็นภารกิจเสริมของ การกีฬาแห่งประเทศไทย เท่านั้น หากปกติแล้วมีภาคเอกชนต้องการซื้อลิขสิทธิ์ เราคงไม่มาร่วมประมูลแย่งกับภาคเอกชน เพียงแต่ครั้งนี้ไม่มีใครดำเนินการ เราจึงต้องเสนอตัวเข้ามาเพื่อคนไทยได้รับชมฟุตบอลโลก เชื่อว่าจากนี้คงมีการแก้ปัญหา เพื่อทำให้ครั้งหน้าเรามีสถานการณ์ที่ดีขึ้น” ดร.ก้องศักดิ์ กล่าว