สรุปผลบอล พรีเมียร์ลีก ในสัปดาห์นี้ เรียกได้ว่ามีครบทุกรสชาติ ใครที่ไม่ได้ติดตามเราจะสรุปทุกอย่างไว้ให้พวกท่านได้อ่านกันอย่างเข้าใจ เกมสนุกๆ เดือดๆ ในอาทิตย์นี้ โดยเฉพาะ ลอนดอนดาร์บี้แมทช์ ที่มีถึง 2ใบแดงด้วยกัน
เริ่มด้วยคู่แรก สิงห์ผงาด แอสตัน วิลล่า เปิดวิลล่าพาร์กต้อนรับการมาเยือนของ ท็อฟฟี่ สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ผลจบไปด้วยสกอร์ 2-1 เจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำจากกองหน้าอย่าง แดนนี่ อิงส์ ในนาทีที่ 31′ ก่อนจะมาได้ลูกที่สองจาก เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย ในนาทีที่ 86′ และอีกไม่กี่นาทีต่อมา เอฟเวอร์ตัน มาตีไข่แตกได้จากการทำเข้าประตูตัวเองของ ลูก้า ดีญ และเกมก็จบไปด้วยสกอร์นี้
มาต่อกันด้วยคู่ที่สอง ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ที่ตอนนี้กำลังฟอร์มร้อนแรง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ และในเกมนี้มีถึง 6ประตูด้วยกัน และเป็นทาง อาร์เซน่อล ที่ยังคงฟอร์มแรงต่อเนื่องกดไปถึง 4ประตู เอาชนะเลสเตอร์ไปได้ 4-2 โดยได้ประตูจากกองหน้าตัวใหม่อย่าง กาเบรียล เฆซุส ที่ทำไป 2ประตูในนาทีที่ 23′ และ 35′ ก่อนที่ทางจิ้งจอกสยามจะมาตีไข่แตกจากการทำเข้าประตูตัวเองของ วิลเลียม ซาลิบา ในนาทีที่ 53′ ด้วยสกอร์ที่ยังไม่หากมากทำให้เลสเตอร์ยังพอมีความหวังแต่ทว่า กรานิต ชาก้า ก็ทะลายความหวังด้วยการซัดเพิ่มไปอีก 1ประตูในนาทีที่ 55′ ก่อนนาทีที่ 74′ เจมส์ แมดดิสัน จะมาเพิ่มความหวังให้กับทีมจากการยิงมุมแคบสุดสวยเข้าไป ก่อนที่ กาเบียล มาติเนลลี่ จะมายิงปิดฝาโลง ในนาทีที่ 75′ และเกมจบด้วยชัยชนะของอาร์เซน่อล
มาต่อกันด้วยคู่ที่สาม เป็นเกมที่เรียกได้ว่าสนุกอยู่ฝั่งเดียว และ เป็นการรับน้องใหม่ที่ทรหดสุดๆ เกมที่ทัพเรือใบแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่มน้องใหม่หน้าเก่าอย่าง บอร์นมัธ ด้วยสกอร์ 4-0 โดยในเกมเป็นเกมที่ เดอ บรอยน์ นั้นร่างทองสุดๆ เพียงแค่นาทีที่ 19′ ทีมก็ขึ้นนำทันทีจากลูกยิงของ อิลคราย กุนโดกัน จากนั้นตามด้วย เดอ บรอยน์ ในนาทีที่ 31′ ฟิล โฟเด้น นาทีที่ 37′ ก่อนจะปิดฝาโลงจากการทำเข้าประตูตัวของ เจฟเฟอร์สัน เลอมา นาทีที่ 79′
คู่ที่สี่ ที่ตอนนี้เป็นที่พูดถึงมากๆ จากเกมที่ เบรนท์ฟอร์ด นั้นโชว์สอนเชิงให้กับ กุนซือใหม่ของผีแดง ด้วยการถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปด้วยสกอร์ 4-0 เรียกได้ว่าไม่มีใครจะคาดคิดถึงเรื่องนี้อย่างแน่นอน จากเกมที่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งจะพ่ายให้กับไบร์ทตันมาด้วยสกอร์ 1-2 หลายคนก็คาดว่าเกมนี้แมนฯ ยูไนเต็ดต้องกลับมาได้อย่างแน่นอน แต่ทว่ากลับเป็นตรงข้าม เริ่มเกมมาเพียง 10นาทีเท่านั้น ทัพผึ้งน้อยก็ออกนำไปก่อน 1-0 จากลูกยิงของ จอช ดาซิลวา และยังเป็นความผิดพลาดของ ดาบิด เดเคอา อีกด้วยเช่นกัน เพียง 8นาทีเท่านั้น เบรนท์ฟอร์ดทิ้งห่างเป็น 2-0 จากลูกยิงของ มาธิอัส เยนเซ่น และในนาทีที่ 30′ เบน มี โขกทิ้งห่างเป็น 3-0 และในนาทีที่ 35′ จากเกมส่วนกลับของเบรนท์ฟอร์ด อีวาน โธนี่ ปาดเข้าในมาให้ทางด้าน ไบรอัน เอ็มเบโม่ ทิ้งห่างไปเป็น 4-0 และแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สามารถทำอะไรเพิ่มได้ จบไปด้วยสกอร์นี้
และในคืนวันเสาร์นั้นยังมีอีกสองคู่ เกมที่ เซนต์แมรี่ เซาท์แธมตัน เปิดบ้านพบกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ผลจบไปด้วยสกอร์ 2-2 โดยทีมเยือนนั้นขึ้นนำก่อนจาก โร้ดดิโก้ โมเรโน่ ในนาทีที่ 46′ และ 60′ ก่อนที่เจ้าบ้านจะมารัวตีเสมอจาก โจ อารีโบ ในนาทีที่ 72′ และ ไคล์ วอคเกอร์ ปีเตอร์ส นาทีที่ 81′ และยังมีเกมที่ ไบร์ทตัน เปิดบ้านพบกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และคู่นี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้เกมจบแบบเจ๊ากันไป 0-0
ตัดมาในวันอาทิตย์โดยวันนี้มีเพียงสองคู่เท่านั้น แต่ว่ามีเกม ลอนดอนดาร์บี้แมทช์
เริ่มด้วยเกม สองทุ่ม ที่น้องใหม่ น็อตติ้งแฮม ฟอร์เรส เปิดบ้านพบกับ ขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เกมก็จบไปด้วยสกอร์ 1-0 เป็นทางด้านเจ้าป่าที่คว้าชัยไปครอง โดยลูกยิงของ ไตโว อโวนิยี ในนาทีที่ 45+2′
มาเริ่มบิ๊กแมทช์ประจำสัปดาห์กันเลย เกมลอนดอนดาร์บี้แมทช์ เชลซี เปิดสแตมฟอร์ดบริดจ์ พบกับ ไก่เดือยทอง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส เกมนี้หากใครไม่ได้ดูถือว่าพลาดมากๆ เกมครบรสสุดๆ เดือดตั้งแต่นาทีแรก ยันจบเกม แม้เกมจะจบไปด้วยสกอร์ 2-2 แต่รูปเกมนั้นถือว่าดุเดือดมากๆ โดยเชลซีขึ้นนำก่อนจากลูกยิงวอลเล่สุดสวยของ คูลีบาลี ในนาทีที่ 19′ ก่อนที่สเปอร์สจะมาตีเสมอจากลูกยิงไกลของ ฮอยจ์เบิร์ก ในนาทีที่ 68′ และหลังจากนั้นไม่นานเชลซีขึ้นนำอีกครั้งจากการยิงของ รีซ เจมส์ ในนาทีที่ 77′ และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แฮรี่ เคน ยิงตีเสมอให้ทีมเรียกได้ว่าดราม่าสุดๆ และจบเกมกุนซือทั้งสองฝั่งก็เดือดตามเกม และก็ได้รับใบเหลืองที่สอง เป็นใบแดงในทันที
และในคืนวันนี้เหลืออีก1เกมที่ลิเวอร์พูลจะเปิดบ้านพบกับ คริสตัล พาเลซ มารอลุ้นกันว่า ลิเวอร์พูลจะสามารถเก็บ 3แต้มแรกได้หรือไม่
