เจมี่ คาร์ราเกอร์ กูรูชื่อดังเชื่อว่า จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มอบสมดุลที่ดีขึ้นให้กับแดนกลางทีมชาติอังกฤษ และมองว่ามิดฟิลด์ลิเวอร์พูลควรยึดตัวจริงในรอบน็อคเอาท์ฟุตบอลโลก
แกเร็ธ เซาธ์เกต ให้โอกาส เฮนเดอร์สัน ลงตัวจริงในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายที่เจอ เวลส์ ซึ่งนับเป็นการออกสตาร์ท 11 คนแรกเป็นครั้งแรกของเจ้าตัวในทัวร์นาเมนต์นี้
เซาธ์เกต เลือกใช้ เมสัน เมาท์, ดีแคลน ไรซ์ และ จู๊ด เบลลิงแฮม เป็นสามประสานตัวจริงกองกลางในนัดแรกที่ อังกฤษ ถล่ม อิหร่าน 6-2 ซึ่งได้ผลดีทีเดียว
อย่างไรก็ตาม “สิงโตคำราม” ทำได้เพียงเสมอกับ สหรัฐอเมริกา 0-0 ในนัดต่อมา โดยที่ ไรซ์ ต้องทำงานหนักเป็นพิเศษกับบทบาทตัวรับ และการลงมาเป็นตัวสำรองของ เฮนเดอร์สัน ช่วยให้แดนกลางของทีมดูดีขึ้นกว่าตอนแรก
“จริง ๆ แล้วผมคิดว่าการมี ดีแคลน ไรซ์ ร่วมกับมิดฟิลด์ประเภทเดียวกันอย่าง คาลวิน ฟิลลิปส์ เหมือนในทัวร์นาเมนต์ที่แล้ว (ปี 2018) ช่วยสร้างความสมดุลนะ, และการเป็นคู่หูของพวกเขาก็ได้ผลดีมาก ๆ” คาร์ราเกอร์ กล่าวกับ Sky Sports
“ถ้าเราเล่นด้วยระบบ 4-3-3, คุณต้องการกองกลางอย่างน้อยหนึ่งคนที่เน้นรุก, เพราะงั้นควรเป็น เบลลิงแฮม พวกเขายังมี เมสัน เมาท์ เป็นตัวเลือกด้วย”
“แกเร็ธ ถูกวิจารณ์ว่าเน้นผลและเน้นรับมากไป, แต่เขาวาง เมสัน เมาท์ และ จู๊ด เบลลิงแฮม เป็นมิดฟิลด์ตัวรุกใน 2 เกมแรกของทัวร์นาเมนต์ใหญ่ โดยมี ดีแคลน ไรซ์ อยู่ข้างหลัง, เพราะงั้นเขาไม่ได้เน้นรับอย่างที่ถูกกล่าวหาเลยนะแต่เมื่อทัวร์นาเมนต์ดำเนินต่อไปและเราเห็นหลายครั้งในเกมที่พบกับสหรัฐฯ, ดีแคลน ไรซ์ ต้องวิ่งเยอะและทำงานหนักเป็นพิเศษ เขาต้องการความช่วยเหลือนิดหน่อยในหลาย ๆ ครั้ง”
“ผมคิดว่าการลงมาของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปลี่ยนเกมของอังกฤษ, เพราะงั้นผมจึงไม่แปลกใจเลยที่เขาได้ลง มันอาจจะเป็นการแย่งตำแหน่งระหว่าง เบลลิงแฮม และ เมาท์ ในทัวร์นาเมนต์นี้ เราจะมาดูกันว่า คาลวิน ฟิลลิปส์ ฟิตแค่ไหนด้วยผมไม่คิดว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต จะใช้กองกลางเหมือนใน 2 เกมแรก เมื่อพวกเขาเจอกับชาติชั้นนำในรอบน็อคเอาท์”