เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค เซ็นเตอร์แบ็คตัวหลักของ ลิเวอร์พูล เปิดเผยการลงเล่นจำนวนมากเกินไปส่งผลเสียต่อสภาพร่างกายของเขา พร้อมยอมรับอาจตัดสินใจผิดที่ฝืนตัวเองเพื่อเข้าร่วม ฟุตบอลโลก เมื่อปลายปีก่อน
ฤดูกาลก่อน ฟาน ไดจ์ต หายเจ็บจากการบาดเจ็บเอ็นไขว์หัวเข่าจากนั้นลงเล่นทุกรายการ 51 นัดช่วย ‘หงส์แดง’ ลุ้น 4แชมป์ ช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลังกลับจากฟุตบอลโลก ฟาน ไดจ์ค ได้รับบาดเจ็บอีกครั้งคราวนี้เกิดที่แฮมสตริงระหว่างลงเล่นกับ เบรนท์ฟอร์ด ต้องพักไปราว 6สัปดาห์ เซ็นเตอร์แบ็คชาวดัทช์วัย 31 ปี กลับมาช่วยทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ลงตัวจริงเก็บคลีนชีทในลีก 3 นัด หลังขณะที่ใน แชมป์เปี้ยนส์ ลีก แพ้ เรอัล มาดริด เละเทะคาบ้าน 5-2 ในเกม พรีเมียร์ ลีก นัดล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ฟาน ไดจ์ค โขกสกอร์เบิกประตูแรกให้ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ วูล์ฟส์ 2-0 และหลังจากนั้นเขาให้ สัมภาษณ์เปิดเผยความรู้สึก
“ทีมเราต้องลงเล่นทุกๆ 3 ถึง 4 วัน ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำบ้างคือการเสียสละ แน่นอนว่าผมต้องการใช้เวลากับครอบครัวมากกว่านี้ แต่ขณะเดียวกันผมก็จำเป็นต้องรักษาร่างกายในทุกๆ วัน, ทำให้แน่ใจว่ารับประทานสิ่งที่ถูกต้อง และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเกมถัดไป”
“นั่นคือชีวิตของนักฟุตบอล ซึ่งผมรู้ดีว่าเราเป็นอาชีพที่มีสิทธิพิเศษมากมาย แต่เราก็ยังต้องทำการเสียสละเหล่านั้น นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังฉาก ผมเจออาการบาดเจ็บที่ซับซ้อนเมื่อสองปีก่อน และนั่นต้องใช้เวลาสำหรับรักษาและปรับตัว”
“นับตั้งแต่กลับมาจากอาการบาดเจ็บนั้น ผมคิดว่าผมได้ลงเล่นทุกเกมใน พรีเมียร์ ลีก เพราะก็เหมือนกับทุกๆ คนคือผมต้องการลงสนาม ผมพยายามอย่างหนักเพื่อทำแบบนั้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมา คือผมลงเล่นจำนวนหลายเกมมากเกินไปภายในช่วงเวลาหนึ่ง”
“เมื่อถึงวันลงแข่ง ผมต้องการลงสนาม และผมจะทำทุกอย่างเพื่อลงสนาม ก่อนเริ่มฟุตบอลโลก ผมอาจมีความคิดว่า ‘พักสักหน่อย เพื่อให้ร่างกายพร้อม’ แต่ผมก็ไม่มีความคิดแบบนั้น เพราะผมต้องการลงสนามช่วยเหลือสโมสรแห่งนี้ สโมสรที่ผมรัก”
“ผมทำงานหนักในทุกๆ วันเพื่อประสบความสำเร็จกับสโมสร แต่เรื่องโชคร้ายคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายผม เพราะผมไม่ใช่หุ่นยนต์ ผมเข้าร่วมฟุตบอลโลก ลงเล่นฟุตบอลโลก แล้วจากนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจะกลับมาลงสนามอีกครั้ง… ซึ่งบางทีนั่นอาจไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูกต้อง”
“สุดท้ายแล้ว อาการบาดเจ็บต่างๆ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้, มันอาจไม่เกิดขึ้นและบางทีผมคงได้ลงสนาม แต่ช่วงเวลา 6 สัปดาห์นั้นทำให้ผมได้มองย้อนกลับมาพิจารณา นอกจากนี้มันยังทำให้เข่าของผมได้พักบ้าง เพื่อความพร้อมสำหรับช่วงที่เหลือของฤดูกาล”
“มันเป็นช่วงเวลา 6 สัปดาห์ที่หนัก เพราะผมต้องการช่วยเหลือทีม แต่คุณต้องมีความอดทนกับอาการบาดเจ็บแฮมสตริง ซึ่งคำว่าอดทน ไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของผม แต่ผมก็ต้องทำใจยอมรับ หากย้อนกลับไป 10-15 ปีก่อน มันเป็นเรื่องค่อนข้างยากที่นักฟุตบอลซึ่งบาดเจ็บแบบผม ยังสามารถลงเล่นต่อในระดับสูง”
“นั่นเป็นเหตุผลที่ผมรู้สึกโชคดีมากที่ยังสามารถลงเล่นในระดับสูง และยังพยายามโชว์ฟอร์มในระดับที่ทั้งตัวเองและทุกคนคาดหวังได้”